เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่บริเวณท่าเทียบเรือชั่วคราว หน้าหาดป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต พลเรือโท อาภากร บุญแก้วคง ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามความพร้อมต้อนรับเรือสำราญขนาดใหญ่ “Spectrum of the seas” ที่จะมาทอดสมอเทียบท่าที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารได้ท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ต หลังจากได้มาทอดสมอเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีกำหนดทอดสมอสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
พลเรือโท อาภากร บุญแก้วคง ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 29 ตุลาคมนี้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ได้มอบหมายให้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะ รอง ผอ.ศรชล.เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่แทนในการต้อนรับเรือ สเปคตรัม ออฟ เดอะ ซีส์ (Spectrum of the seas) ซึ่งเป็นเรือสำราญสัญชาติเอมริกาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ให้บริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดคลี่คลาย
“ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 สถิติการเดินทางเข้ามาทางน้ำของนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญมายัง จ.ภูเก็ตในปี 2562 จำนวน 154 ลำ คนประจำเรือพร้อมผู้โดยสาร รวม 485,598 คน แต่ละคนจะใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประมาณ 6,000 บาท คิดเป็นเงิน 2.9 พันล้านบาทเศษ ซึ่งจะเห็นว่า เป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ดังนั้นหากทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่สวยงาม สร้างความมั่นใจให้กับบริษัทเรือสำราญว่า จะได้รับการบริการที่ดี สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว บรรยากาศการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญและสถิติต่าง ๆ จะกลับมาเทียบเท่าในปี 62 อย่างแน่นอน”
พลเรือโทอาภากร กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่พบป่าตองพบว่า มีชีวิตชีวามามากขึ้น โดยเรือลำนี้จะเข้ามาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยมีนักท่องเที่ยวและลูกเรือรวม ประมาณ 6,000 คน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโป๊ะเทียบเรือ การจัดระเบียบด้านการจราจร รถรับส่ง การนำเที่ยว การอำนวยความสะดวก ทั้งทางทะเลและบนบก เพราะการเข้ามาของเรือสำราญจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก การเข้ามาแต่ละครั้งจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท