เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ที่วัดคีรีวงก์ (วัดน้ำตก) อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร พระมหาชวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ วัดคีรีวงก์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการผลักดันแพทย์แผนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง กับนายมงคล นิตยวิมล นายกสมาคมสมาคมอภิวัฒน์พัฒนาแพทย์แผนไทย โดยมีนางพรศรี อนันตณรงค์ เลขานุการวัดคีรีวงก์, นางสาวพัทธ์ธีรา กิตติวีระนนท์ เลขานุการสมาคมฯ และนายจรัญ นวลศรี ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาสมาคมฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายมงคล นิตยวิมล นายกสมาคมสมาคมอภิวัฒน์พัฒนาแพทย์แผนไทย กล่าวว่า สมาคมอภิวัฒน์พัฒนาแพทย์แผนไทย เป็นสมาคมที่ตั้งขึ้นเพื่อการเผยแพร่องค์ความรู้ศาสตร์แห่งแพทย์แผนไทยออกไปในวงกว้าง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้ศาสตร์แห่งแพทย์แผนไทยให้บริการชุมชนในด้านสุขภาพ และช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต มีที่ทำการอยู่ในวัดพระนางสร้าง จังหวัดภูเก็ต
สำหรับการบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้นี้ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ ระหว่างวัดคีรีวงก์ และสมาคมอภิวัฒน์ฯ ความร่วมมือนี้มุ่งเป้าที่จะยกระดับ แผนการศึกษา ริเริ่มการจัดการการวิจัยร่วม และช่วยเหลือการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน ให้เป็นที่รู้จักทั้งในระดับชุมชน ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และระดับโลก รวมทั้งใช้ความรู้แห่งศาสตร์แพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน บริการชุมชนในการดูแลสุขภาพองค์รวมให้กับประชาชนทั่วไป
นายมงคล กล่าวต่อว่า บันทึกข้อตกลงนี้จะช่วยยกระดับ ต่อยอดและสืบสานองค์ความรู้แห่งแพทย์แผนไทย ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทย ตำรับยารักษาไข้พิษ ไข้กาฬของวัดคีรีวงก์ เป็นที่ประจักษ์มาแล้วในช่วงที่โควิดระบาด ได้ช่วยปกป้องสุขภาพพี่น้องคนไทยมากมาย และในช่วงที่ภูเก็ตปิดเกาะ ทาง นายโชคชัย นาควิจิตร ที่ปรึกษาสมาคม ได้ขอตำรับยาดังกล่าว มาทำแคปซูลแจกจ่ายให้กับพี่น้องในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงร่วมหนึ่งล้านแคปซูล โดยได้สรรพกำลังจากนักศึกษาแพทย์แผนไทย เทศบาลนครภูเก็ต ห้างหุ้นส่วนจำกัดเซ้าเทิร์น มีเดีย กาชาดจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ช่วยในการจัดหาอุปกรณ์ทำยาและยังร่วมกันลงมือทำยาตำรับดังกล่าวออกมาช่วยเหลือพี่น้องชาวภูเก็ตอีกด้วย เพราะความเมตตาของพระมหาขวัญชัยที่ผ่านมา ผมจึงมีความประสงค์ที่จะทำบันทึกความร่วมมือในวันนี้
ด้านพระมหาขวัญชัย กล่าวว่า การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ กับสมาคมอภิวัฒน์พัฒนาแพทย์แผนไทย เป็นเรื่องที่ดี ที่จะมีผู้มาช่วยส่งเสริมกิจการงานแพทย์แผนไทยให้กว้างขวางออกไป เพราะลำพังเพียงวัดคีรีวงก์แห่งเดียว คงจะให้บริการพี่น้องคนไทยได้ไม่ทั่วถึง ในส่วนของขอบเขตความร่วมมือ จะเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา เพื่อประโยชน์เชิงวิชาการ งานวิจัย และการบริการชุมชน การพัฒนาร่วมกันในแผนการศึกษา การประชุมเชิงปฏิบัติ การสัมมนา การจัดนิทรรศการ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน
โครงการวิจัยร่วมเพื่อความก้าวหน้าในความเข้าใจการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน เพื่อประโยชน์ในพื้นที่การศึกษาผ่านพันธกิจสัมพันธ์ชุมชน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนทรัพยากร สมุนไพร วัตถุดิบ องค์ความรู้รวมทั้ง ห้องปฏิบัติการ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ตามความเหมาะสม บันทึกข้อตกลงในครั้งนี้จะยังประโยชน์ให้กับคนไทยเป็นอย่างยิ่ง
